หมวดหมู่: บทวิเคราะห์
FSS
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
กลยุทธ์วันนี้ >> Selective Bet on Earnings
          ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index รีบาวนด์มาปิดบวก 4.59 จุดหลังปรับลงติดต่อกัน 3 วัน วอลุ่มเบาบางลงเหลือ 5.48 หมื่นลบ. กลุ่ม REIT/IFF กลับมาฟื้นหลังจากถูกขายหนัก แต่แบงก์ใหญ่ยังลงต่อ ค่าเงินบาทแกว่งแคบแต่เริ่มอ่อนค่าปลายตลาด แรงขายยังมาจากสถาบันในประเทศที่ขายเป็นวันที่ 4 แต่เบาบางลงเป็น 1.4 พันลบ. (กลับมา long Index Futures 1.7 พันสัญญา) นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 อีก 1.35 พันลบ. (และ long Index Futures 1.22 พันสัญญาและยังคงขายบอนด์เป็นวันที่ 5 เป็นผลมาจากมาตรการของธปท.)  
          แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index มีแนวโน้มแกว่งตัวออกข้าง เลือกเล่นเป็นรายตัว แต่กลุ่มแบงก์จะยังกดดันตลาด เพราะกำไรไม่มี surprise ในทางบวกเพราะไม่ลดการตั้งสำรองเหมือน TISCO ขณะที่ราคาน้ำมันยังปรับลงต่อ กดดันกลุ่มพลังงานและโรงกลั่น 
          กลยุทธ์ : เลือกเป็นรายตัวเน้นหุ้นที่คาดกำไรดีและมีปันผล และราคา laggard 
          หุ้นเด่นเดือน ก.ค. :  ICHI, KKP, MINT, PTTGC, SEAFCO
 
หุ้นเด่นวันนี้: JWD
          - แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 12 บาท 
          - คาดกำไร 2Q19 +65% Y-Y เป็น 81 ลบ. จากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของ Transimex (ถือ 23.66%) โลจิสติกส์ใหญ่อันดับ 3 ในเวียดนาม เป็นไตรมาสแรก แต่คาดกำไร -10% Q-Q เพราะ low season และมีค่าธรรมเนียมในการซื้อกิจการ หากเป็นไปตามคาด กำไร 1H19 จะ +88% Y-Y 
          - แนวโน้ม 2H19 ดีขึ้นเพราะ high season และรับรู้รายได้จากการลงทุนในปีก่อนทั้งในไต้หวัน กัมพูชา และเวียดนาม และไม่ถูกกระทบจากสงครามการค้า เพราะอยู่ในธุรกิจ Food ธุรกิจห้องเย็นซึ่งยังเติบโตดี ส่วนนิคมที่พนมเปญได้อานิสงส์จากการย้ายฐานการผลิตของจีน เราคาดกำไรปีนี้ +53% ทำนิวไฮ 370 ลบ.   
          Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$33ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$137ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$68ล้าน และไทย US$44ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคตลาดให้ความสนใจต่อผลประกอบการของบจ. จากผลกระทบจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐ ขณะที่ตลาดรอคอยการประชุม Fed ในสัปดาห์หน้า
 
ประเด็นสำคัญวันนี้
          (+) SCB กำไรดีกว่าคาด +20% Q-Q, -1.2% Y-Y เป็น 1.1 หมื่นลบ. ยังคงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 152 บาท เราชอบ SCB มากกว่า BBL 
          (-) BBL กำไรใกล้เคียงที่เราคาด +3.5% Q-Q, +1.7% Y-Y เป็น 9.3 พันลบ. แต่รายได้หลักน่าผิดหวัง เราปรับกำไรทั้งปีลง 6% เป็น 3.6 หมื่นลบ. +2.7% Y-Y ลดราคาเป้าหมายเป็น 222 บาท ยังแนะนำซื้อ แต่นำออกจาก Top pick ของกลุ่ม
          (-) KBANK กำไรแย่กว่าคาด -1% Q-Q, -9% Y-Y เป็น 9.93 พันลบ. จากค่าใช้จ่ายการดำเนินงานสูงกว่าคาด คงราคาเป้าหมาย 212 บาท แนะนำซื้อ
          (-) KTC กำไรต่ำกว่าเราและตลาดคาดราว 12-20% จากการตั้งสำรองหนี้สูญสูงกว่าคาด แต่ยังแนะนำซื้อ ครึ่งปีหลังฟื้นเป็นปกติ ราคาเป้าหมาย 48 บาท 
          (+) BJC กำไร 2Q19 มีแนวโน้มโตดีทุกธุรกิจ แม้ BigC จะเจอการแข่งขันแรงขึ้น SSSG อาจทำได้เพียงทรงตัว Y-Y ก็ตาม ขณะที่ธุรกิจกระป๋องฟื้นจาก 1Q19 เพราะมีลูกค้าใหม่เข้ามา 2 รายและจะมีเพิ่มอีก 1 รายใน 3Q19 ชดเชยยอดของ CBG ได้ แนวโน้ม 2H19 จะโตต่อเนื่อง เรายังคงคาดกำไรปีนี้ +7% Y-Y เป็น 6.8 พันลบ. คงราคาเป้าหมาย 58 บาท แนะนำซื้อ
          (-) CPF CPP HK ซึ่งเป็นบ.ย่อยของ CPF เตือนว่าผลประกอบการ 2Q19 อาจ -52% Q-Q, -76% Y-Y จากราคาหมูที่เวียดนามที่ลงแรงจนขาดทุนจากการตีมูลค่ายุติธรรมพันธุ์หมู แต่เราคาดธุรกิจหมูในไทยดีขึ้นจะช่วยชดเชยได้ แต่กำไร 2Q19 ไม่น่าตื่นเต้นอยู่แล้วเพราะมี Employee benefit 1.8 พันลบ. เราคาดกำไรสุทธิ -2% Q-Q, -26% Y-Y ชะลอการลงทุนไปก่อน หากราคาหุ้น panic เพราะ ASF เข้าไทยจริง จึงจะน่าซื้อในช่วงนั้น
          (-) XO กำไรมีแนวโน้มชะลอกว่าที่คาด เพราะลูกค้ารายใหญ่ใน UK ยังชะลอคำสั่งซื้อ บาทแข็งมีผลกระทบ การใช้กำลังการผลิตลดลง รายจ่ายสูงขึ้นจากการออกบูธที่ Thaifex ครึ่งปีหลังจะมีโปรโมชั่นให้ส่วนลดกับลูกค้า ฉลองครบรอบ 20 ปีของบริษัท เราคาดกำไร 2Q19 ที่ 34 ลบ. -50% Q-Q, -21% Y-Y หลีกเลี่ยง  
 
          (+) ตลาดดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 3.12 จุด ปิดที่ 27,222.97 จุด รับปัจจัยบวกจากนายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ที่ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย
          (-) ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และการปรับลงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี
          (+) ตลาดเอเชียปรับขึ้น ท่ามกลางความคาดหวังเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
          (-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 30.74 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ 
          (-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ลดลง 1.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 55.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน ถูกกดดันจากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่ผ่านมา
          (+) ราคาทองคำ COMEX เพิ่มขึ้น 4.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,428.10 ดอลลาร์/ออนซ์ สูงสุดในรอบ 6 ปี จากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้
          SPDR Gold Trust ถือครองทองคำ 814.62/+11.44 ตัน
 
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 ก.ค.   - ไทย: ยอดส่งออก-นำเข้า (มิ.ย.)
24 ก.ค.   - ยูโรโซน: Markit Eurozone Composite PMI (มิ.ย.)
25 ก.ค.   - ไทย: รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภา
          - ยูโรโซน: ECB ประชุม
26 ก.ค.   - สหรัฐ: GDP 2Q19
30 ก.ค.   - ไทย: Industrial production (มิ.ย.) 
          - ญี่ปุ่น: BOJ ประชุม
 
          Contact person : Jitra  Amornthum  Register : 014530
          Contact person : Veeravat Virochpoka Register : 047077
          www.fnsyrus.com
          FB: Finansia Syrus Research

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!