หมวดหมู่: มติ ครม.

Gov ภูมิธรรม08


ร่างกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT)

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำร่างกรอบความร่วมมือด้านศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT) (ร่างกรอบความร่วมมือฯ) ที่จะมีการลงนามในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 30 ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT) และขอความเห็นชอบให้กรมศุลกากร กค. สามารถปรับปรุงถ้อยคำในเอกสารดังกล่าวได้ ในกรณีที่มิใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้ง และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเข้าร่วมลงนามในร่างกรอบความร่วมมือฯ ในการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 30 ภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย – มาเลเซีย – ไทย (IMT - GT) ตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ

          สาระสำคัญของเรื่อง 

          กค. รายงานว่า

          1. ร่างกรอบความร่วมมือฯ เป็นความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาล 3 ประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย มาเลเซีย และราชอาณาจักรไทย เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาเศรษฐกิจของทั้ง 3 ประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการริเริ่มการดำเนินการด้านการค้าในระดับอนุภูมิภาคและการอำนวยความสะดวกด้านการขนส่งให้ดำเนินไปในทิศทางเดียวกัน เสริมสร้างความเข้มแข็งด้านการศุลกากรการตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน ซึ่งจะช่วยให้การเคลื่อนย้ายทรัพยากรระหว่างประเทศคู่สัญญา การปฏิบัติพิธีการด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันง่ายขึ้น ทำให้กฎระเบียบข้อบังคับ และกระบวนการต่างๆ มีความโปร่งใสมากขึ้น รวมถึงการปรับปรุงการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดต้นทุนในการทำธุรกรรม เพิ่มความปลอดภัยทางการค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

          2. ร่างกรอบความร่วมมือฯ มีสาระสำคัญสรุปได้ เช่น

 

ประเด็น

 

สาระสำคัญ

ส่วนที่ 1 บทบัญญัติทั่วไป

ขอบเขตการใช้บังคับ

 

- รับรองความสามารถและทรัพยากรของประเทศตนในการดำเนินมาตรการด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน

- กรอบความร่วมมือไม่ก่อให้เกิดสิทธิหรือพันธกรณีใดๆ และไม่ถือเป็นสนธิสัญญาภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ส่วนที่ 2 สิ่งอำนวยความสะดวกและพิธีการในการข้ามพรมแดน 

ความพร้อมของการบริการ

สิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร

 

จัดเตรียมการบริการสิ่งอำนวยความสะดวก และบุคลากร จุดเข้า - ออก ที่กำหนด เพื่ออำนวยความสะดวกเพื่อให้กระบวนการข้ามพรมแดนเป็นไปโดยราบรื่น

การบริหารจัดการชายแดนร่วมกัน

 

- อำนวยความสะดวกและให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ และควบคุมบุคคล สินค้า และพาหนะ

- ให้บริการการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนนอกเวลาทำการเพื่อลดเวลาการรอคอย พรมแดน โดยมีค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล

- ในระยะยาวจะใช้เอกสารและฐานข้อมูลการนำเข้า การส่งออก และการผ่านแดนในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์

การแลกเปลี่ยนข้อมูล

 

แลกเปลี่ยนข้อมูล โดยสอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ และกระบวนการภายในประเทศของตน

การประเมินและการจัดการความเสี่ยง

 

- ยกระดับการควบคุมด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน จุดเข้า - ออกที่กำหนด ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติ และแนวทางการประเมินความเสี่ยงที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

- ส่งเสริมการรับรองผู้ประกอบการที่มีความเสี่ยงต่ำและให้สิทธิประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกที่สอดคล้องกับการประเมิน และการตรวจสอบความเสี่ยง

ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 

เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในการควบคุมและการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้าและบุคคลตามกฎหมาย กฎระเบียบ และกระบวนการภายในประเทศ

ส่วนที่ 3 การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของบุคคล 

เอกสารการเดินทาง

การตรวจลงตรา และการอำนวยความสะดวก ด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง

 

- รับรองว่าบุคคลใดที่เดินทางข้ามพรมแดนได้ถือเอกสารการเดินทางที่มีอายุใช้ได้ประเภทใดประเภทหนึ่ง ดังต่อไปนี้ :

(1) หนังสือเดินทางที่ออกตามมาตรฐานหนังสือเดินทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO)

(2) เอกสารการเดินทางสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่องค์การสหประชาชาติและองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ ที่ได้รับอนุญาต

(3) เอกสารการเดินทางประเภทอื่นๆ ที่ใช้แทนหนังสือเดินทาง

- บุคคลใดที่เดินทางข้ามพรมแดนจะต้องได้รับการตรวจลงตรา ตามที่กลุ่มประเทศคู่สัญญากำหนดเว้นแต่ได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราตามความตกลงทวิภาคีหรือความตกลงระดับภูมิภาค

- หาแนวทางในการจัดการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองที่เหมาะสม

การตรวจสุขภาพ

ผู้เดินทางข้ามแดน

 

บังคับใช้กฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละประเทศที่เป็นไปตามข้อแนะนำของกฎอนามัยระหว่างประเทศภายใต้องค์การอนามัยโลก

การควบคุมทางศุลกากร สำหรับหีบห่อสัมภาระ

และของใช้ส่วนตัว

 

ดำเนินการควบคุมทางศุลกากรให้เป็นไปตามความตกลงระดับสากลและระดับภูมิภาคที่ประเทศตนเป็นภาคีและผูกพันตามเกณฑ์มาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และแนวปฏิบัติเพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายบุคคล

การตรวจสอบด้านสุขอนามัย และสุขอนามัยพืช

สำหรับของใช้ส่วนตัว

 

ของใช้ส่วนตัวของผู้ที่เดินทางข้ามแดนจะต้องถูกดำเนินการ ตามมาตรการสุขอนามัยและการบริหารความเสี่ยงและสุขอนามัยพืช

ส่วนที่ 4 การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้า 

พิธีการศุลกากร

 

อำนวยความสะดวกและรับรองความปลอดภัยของการค้าข้ามพรมแดนภายในขอบเขตที่เป็นไปใต้ผ่านการปรับปรุงและเป็นไปในแนวทางเดียวกันของพิธีการนำเข้า ส่งออก และผ่านแดน ภายใต้ความตกลงระดับภูมิภาคเป็นไปตามมาตรฐานสากลและแนวปฏิบัติที่มีอยู่

ข้อกำหนดด้านเทคนิค มาตรฐาน และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช

 

- นำมาตรฐาน คู่มือแนวทางปฏิบัติ และข้อแนะนำเกี่ยวกับมาตรการทางเทคนิคต่อการค้า และมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืชในระดับสากลมาปรับใช้ประกอบการดำเนินการตรวจสอบสินค้าตามกฎหมายและข้อกำหนดภายในประเทศ

- สนับสนุนและส่งเสริมความร่วมมือด้านเทคนิคในด้านมาตรฐาน กฎระเบียบทางเทคนิคและมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช เช่น แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับข้อกำหนดด้านการนำเข้า และส่งออกสินค้า รวมถึงข้อกำหนดด้านการตรวจสอบ และกระบวนการอนุมัติ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการอุบัติของโรคระบาดสัตว์ ศัตรูพืชกักกัน และประเด็นความปลอดภัยอาหารที่ส่งผลกระทบต่อการค้าของกลุ่มประเทศคู่สัญญา

การขนส่งสินค้าผ่านแดน

 

- ดำเนินการตามกระบวนการด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกันที่ทำให้พิธีการและการควบคุมสินค้าผ่านแดน มีความคล่องตัวและเรียบง่ายที่สุด ตามกฎหมายภายในประเทศ ข้อบังคับ และกรอบความตกลงอาเซียนว่าด้วยการอำนวย ความสะดวกในการขนส่งสินค้าผ่านแดน

ส่วนที่ 5 การจัดการเกี่ยวกับการดำเนินการ 

ความโปร่งใสของกฎหมาย กฎ และข้อบังคับ

 

- จัดให้มีข้อมูลเป็นภาษาทางการของกลุ่มประเทศคู่สัญญาและภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมถึงกฎหมาย กฎระเบียบ กระบวนการภายในประเทศ ตลอดจนข้อมูลด้านเทคนิค รวมถึงค่าธรรมเนียม และค่าภาระติดพันที่เกี่ยวกับการขนส่งสินค้า และการเคลื่อนย้ายบุคคลข้ามพรมแดน

- ให้คำอธิบายเกี่ยวกับกฎ กฎระเบียบ และกระบวนการที่มีผลใช้บังคับเท่าที่บทบัญญัติแห่งกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในการตอบข้อสอบถามสำหรับผู้ที่สนใจโดยปราศจากค่าใช้จ่าย หรือมีค่าใช้จ่ายน้อยที่สุดเทียบเท่ากับต้นทุนการให้บริการที่จัดให้ ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม

การระงับข้อพิพาท

 

ข้อพิพาทใดๆ ที่เกิดจากการดำเนินการและการตีความบทบัญญัติของกรอบความร่วมมือฉบับนี้จะถูกแก้ไขผ่านการหารือระหว่าง และภายในกลุ่มประเทศคู่สัญญาผ่านทางคณะทำงานย่อย ด้านการศุลกากร การตรวจคนเข้าเมือง และการกักกัน โดยปราศจากบุคคลที่สามหรือคณะกรรมการระหว่างประเทศใดๆ

ส่วนที่ 6 บทบัญญัติสุดท้าย

การมีผลใช้บังคับ 

ระยะเวลาการมีผลใช้บังคับ

และการสิ้นผล

 

- กรอบความร่วมมือฉบับนี้มีผลใช้บังคับในวันที่ลงนามและยังคงมีผลใช้บังคับจนกว่าประเทศคู่สัญญาประเทศใดประเทศหนึ่งแจ้งขอยุติความเป็นคู่สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร

- ประเทศคู่สัญญาประเทศใดประเทศหนึ่งอาจขอยุติความเป็นคู่สัญญาจากกรอบความร่วมมือฉบับนี้ โดยการแจ้งความประสงค์ เป็นลายลักษณ์อักษรไปยังประเทศคู่สัญญาอื่นๆ ผ่านช่องทางการทูต โดยจะต้องมีระยะเวลาอย่างน้อยหกเดือนก่อนวันสิ้นผล

- การสิ้นผลของกรอบความร่วมมือฉบับนี้ ไม่กระทบต่อ การดำเนินการและระยะเวลาของกิจกรรมแผนโปรแกรม และโครงการใดๆ ที่กำลังดำเนินอยู่ภายใต้กรอบความร่วมมือฉบับนี้ ซึ่งได้รับการตัดสินใจร่วมกันในวันที่หรือก่อนวันที่กรอบความร่วมมือ ฉบับนี้สิ้นผลลง เว้นแต่กลุ่มประเทศคู่สัญญาจะตกลงเป็นอย่างอื่น

การทบทวนและการแก้ไข

 

- กรอบความร่วมมือฉบับนี้อาจถูกทบทวนโดยกลุ่มประเทศคู่สัญญา เมื่อมีความจำเป็น เพื่อให้รับรองถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันและการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ

- ประเทศคู่สัญญาอาจร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรให้มีการแก้ไข ส่วนใดส่วนหนึ่งของกรอบความร่วมมือฉบับนี้ โดยการแก้ไขดังกล่าว จะต้องได้รับความเห็นชอบร่วมกันเป็นลายลักษณ์อักษร โดยกลุ่มประเทศคู่สัญญา และจะถือเป็นส่วนหนึ่งของกรอบ ความร่วมมือฉบับนี้ การแก้ไขดังกล่าว จะมีผลใช้บังคับในวันที่ ได้เห็นชอบกันไว้เป็นลายลักษณ์อักษรโดยกลุ่มประเทศสัญญา

 

          3. ประโยชน์และผลกระทบ

              3.1 ส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในเวทีระหว่างประเทศ โดยใช้ประโยชน์จากการพัฒนาความร่วมมือในระดับอนุภูมิภาคภายใต้แผนงานการพัฒนา เขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย - มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) ในการดึงดูดความสนใจ ของภาคเอกชนและนักลงทุนให้เข้ามาดำเนินการหรือลงทุนในพื้นที่ของประเทศไทย

              3.2 การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของสินค้าและบุคคล ภายในกลุ่มประเทศคู่สัญญาจะเรียบง่ายขึ้น ลดขั้นตอนและความยุ่งยากในการปฏิบัติพิธีการ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

              3.3 เกิดความเข้มแข็งในการรักษาความมั่นคงและความปลอดภัย ของห่วงโซ่อุปทานในการเคลื่อนย้ายสินค้าและบุคคลในระดับอนุภูมิภาค

 

(โปรดตรวจสอบมติคณะรัฐมนตรีที่เป็นทางการจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง)

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ภูมิธรรม เวชยชัย (รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี) 27 สิงหาคม 2567

 

 

8787

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PXTOA 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

SME720x100 2024

CKPower 720x100

QIC 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

kbank 720x100 66

ธกส 720x100PTG 720x100

ใจฟู720x100px

AXA 720 x100

ooKbee1

corehoon NEW2

 

 

ข่าวล่าสุด!!